top of page
ค้นหา

3 สายพันธุ์ปลา น่าเลี้ยงในบ่อดิน

  • sanporbk
  • 2 ส.ค. 2566
  • ยาว 1 นาที

ปลาน่าเลี้ยงในบ่อดิน

3 พันธุ์ปลาน่าเลี้ยงในบ่อดิน

การทำเกษตรนั้นแบ่งเป็นสองอย่างหลัก ๆ คือการปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ หรืออาจจะทำทั้งสองอย่างรวมกัน ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยทางต้นทุนที่มี บางคนมีพื้นที่ปลูกพืช บางคนมีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ ทั้งนี้ในระยะแรกเริ่มเราอาจจะไม่สามารถทำให้เป็นอย่างที่ต้องการทั้งหมดได้ จำเป็นจะต้องเริ่มจากสิ่งที่มีก่อนเพื่อเป็นการประหยัดต้นทุนให้ได้มากที่สุด

การเลี้ยงปลา ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มอาชีพเกษตรกรในการเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากมีการลงทุนไม่มาก สามารถเริ่มจาก จำนวนน้อย ๆ ได้ อีกทั้งพันธุ์ปลายังมีให้เลือกหลากหลาย เลี้ยงได้ทุกสภาพอากาศและภูมิประเทศ นอกจากนี้ยังหาตลาดรองรับไม่ยากและสามารถนำมาทำเป็นอาหารให้กับตนเองและครอบครัวได้อีกด้วย การเลี้ยงปลาจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรมือใหม่หลายๆคนเลยทีเดียว

การเลี้ยงปลาในบ่อดินนั้นเกษตรกรนิยมมากที่สุดเนื่องจากไม่ต้องลงทุนเท่ากับบ่อซีเมนต์ สามารถกำหนดความลึกของน้ำและขนาดของบ่อได้ นอกจากนี้ยังง่ายต่อการสร้างระบบนิเวศ ใต้น้ำ ทำให้น้ำไม่เสีย เลี้ยงปลารวมกันได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีอาหารจากธรรมชาติให้ปลาอีกด้วย นอกเหนือไปจากนั้น ยังสามารถปลูกพืชน้ำบริเวณผิวน้ำเป็นการสร้างรายได้และอาหารได้อีกหนึ่งช่องทาง ในกรณีทำเกษตรแบบผสมผสานสามารถเลี้ยงสัตว์อื่น ๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อกัน อาทิเช่นเลี้ยงไก่โดยการสร้างโรงเรือนบนบ่อปลา เพื่อใช้ขี้ไก่เป็นอาหารปลา ก็จะสามารถลดต้นทุนอีกทั้งยังได้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอย่างคุ้มค่าอีกด้วย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การเลี้ยงปลาในบ่อดิน จึงได้รับความนิยมจากเกษตรมากกว่าการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์

สำหรับการเลือกพันธุ์ปลา เกษตรกรมือใหม่ก็อาจเกิดความสงสัยว่า ควรเลี้ยงปลาอะไรดีในบ่อดิน ซึ่งปลาแต่ละสายพันธ์นั้นก็มีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นควรเลือกให้เหมาะกับที่ต้องการ ทั้งเวลาในการดูแล ต้นทุนทางอาหาร หรือแม้กระทั่งตลาดที่หาได้ ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ควรนำมาประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกพันธ์ปลา

สำหรับเกษตรที่กำลังมองหาพันธุ์ปลาที่ต้องการเลี้ยงในบ่อดินนั้น ครั้งนี้ เราจะขอแนะนำ ปลายอดนิยม 3 สายพันธ์ สำหรับการเลี้ยงในบ่อดิน เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจก่อนลงมือทำ ซึ่งจากการสำรวจ ปลายอดนิยมสำหนับเลี้ยงในบ่อดินนั้น 3 อันดับแรก มีดังนี้



1.ปลาดุกบิ๊กอุย พันธุ์ปลาน่าเลี้ยงในบ่อดิน

ปลาดุก

จัดเป็นปลายอดนิยมสำหรับการเลี้ยงสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดินและบ่อแบบอื่นๆ เนื่องจากเลี้ยงง่าย แข็งแรง โตไว คนนิยมบริโภค ปลาชนิดน้ำไม่ต้องการ ออกซิเจนมากนักจึงสามารถเริ่มเลี้ยงในบ่อขนาดเล็ก ที่ความลึกไม่มากได้ โยสายพันธ์ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยได้แก่ 3 สามพันธ์ บิ้กอุย, อุยและรัสเซีย


การเตรียมบ่อ

สำหรับเลี้ยงปลาดุกนั้นก็ไม่ยุ่งยาก เพียงใช้ปูนขาวโรยก้นบ่อ จากนั้นในปุ๋ยคอกลงไป ในอัตราส่วน 200 กิโลกรัม/ บ่อ1 ไร่ เพื่อสร้างจุลินทรีย์ในน้ำ จากนั้นสามารถปล่อยน้ำลงบ่อ ทิ้งไว้ประมาณ 4-5 วัน จึงปล่อยลูกพันธ์ปลาลงไปได้ ในสัดส่วน 100,000 ตัว/บ่อ 1 ไร หรือในอัตราส่วน 50 ตัว/ 1 ตารางเมตรสำหรับการเลือกทำเลบ่อควรมีร่มเงาให้ปลาได้อาศัยในเวลากลางวัน ไม่ควรเปิดโล่งรับแสงโดยตรง


อาหาร

สามารถให้อาหารได้ทั้งอาหารเม็ดสำเร็จรูป หรือจะผสมสูตรอาหารสดเองก็ได้ทั้งนี้ควรศึกษาอาหารที่เหมาะกับช่วงวัยของปลาเพื่อให้ปลาเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตได้ดี

เก็บเกี่ยว

ปลาดุกจะใช้เวลาโตเต็มที่ประมาณ 3-5 เดือนก็จะสามารถนำออกขายได้ โดยใน 1 บ่อจะสามารถทำน้ำหนักได้ถึง 10 – 15 ตัน เลยทีเดียว


2.ปลานิล พันธุ์ปลาน่าเลี้ยงในบ่อดิน



ปลานิล

อีกหนึ่งปลาน้ำจืดยอดนิยมที่ปัจจุบัน ถือเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจอันดับต้นๆ มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ โรคน้อย โตวัย เลี้ยงง่าย ให้ลูกเยอะ สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี มีผู้นิยมบริโภคมากทั่วประเทศ เนื่องจากราคาไม่แพง ปัจจุบันสายพันธุ์ที่มีอยู่ในประเทศไทยและคนนิยมเลี้ยงมี ด้วยกัน 4 สายพันธุ์คือ กิพท์, บิ๊กนิล, แม็คนิล และสายพันธุ์พระราชทาน คือ จิตลดา


การเตรียมบ่อ

บ่อปลานิลควรขุดให้มีความขั้นต่ำที่ 1 เมตร เริ่มด้วยการโรยปูนขาวก้นบ่อเพื่อปรับสภาพ ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ จากนั้นจึงเริ่มปล่อยน้ำเข้าบ่อ ทั้งนี้ควรใส่ปุ๋ยคอกลงในบ่อ เช่นเดียวกับปลาดุก เพื่อสร้างระบบนิเวศและอาหารทางธรรมชาติให้ปลาอีกทางหนึ่ง จากนั้นจึงปล่อยลูกพันธุ์ปลานิลลงไปในอัตราส่วน 800 -1200 ตัว/ บ่อ 1 ไร่ทั้งนี้ควรล้อมตาข่ายรอบๆปากบ่อเพื่อป้องกับสัตว์ชนิดอื่นๆ ลงมากินปลาในบ่อที่เลี้ยงไว้


อาหาร

ปลานิลสามารถให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปผสมกับรำข้าวได้เลย โดยให้วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น


เก็บเกี่ยว

ปลานิลจะโตเต็มที่ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 – 6 เดือนจึงจับออกขายได้ ทั้งนี้ปลานิล 1 บ่อ สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ไม่ต่ำ 40,000 บาทขึ้นไป ถือสร้างรายได้อย่างงามเลยทีเดียว


3.ปลาทับทิมพันธุ์ปลาน่าเลี้ยงในบ่อดิน


ปลาทับทิม

ปลาน้ำจืดเศรษฐกิจยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศ เนื่องจากได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาเป็นอย่างดีจึงมาลักษณะที่ดี สีสวย ขนาดลำตัวใหญ่ หัวเล็ก เนื้อแน่น กลิ่นคาวน้อยสามารถนำไปประกอบอาหารได้มากมาย สามารถเจริญเติบโตได้ไว ทนการแออัดได้ดี อีกทั้งเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและนอกประเทศอย่างมาก ทั้งนี้ปลาทับทิมสามารถเลี้ยงได้กับบ่อทุกรูปแบบ ตามที่เกษตรต้องการ


การเตรียมบ่อ

ทำเช่นเดียวกับปลาชนิดอื่นๆที่ต้องเลี้ยงในบ่อดิน นั่นคือการ โรงปูนขาวก้นพื้นบ่อ ใส่ปุ๋ยคอกหรือมูลสัตว์เพื่อสร้างสมดลระบบนิเวศ และอาหารจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ ทั้งนี้บ่อปลาทับทิมควรมีความบึกไม่ต่ำกว่า 1 เมตร จากนั้นใส่น้ำแล้วพักไว้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก่อนจะปล่อยลูกปลาลงไป โดยควรปล่อยในช่วงเช้าที่อากาศไม่ร้อนมาก อัตราส่วนปลาทับไม่ต่างกับปลานิลคือ 800 -1200 ตัว/ บ่อ 1 ไร่


อาหาร

สามารถใช้อาหารปลาสำเร็จที่มีขายในท้องตลาดทั่วไปหรือจะผสมอาหารสดตามสูตรที่ต้องการก็ได้ ทั้งนี้ควรเน้นไปที่โปรตีนเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต อาหารปลาควรให้ วันละ 1 -2 ครั้ง เวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงเย็น และช่วงเช้า


การเก็บเกี่ยว

ปลาทับทิมใช้ระยะเวลาที่จะโตเต็มที่ประมาณ 3-4 เดือนจึงจะเริ่มจับออกขาย ราคารับซื้อหน้ากระชังจะอยู่ที่ ไม่ต่ำกว่า 50 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม ทั้งนี้ยากยิ่งประหยัดต้นทุนได้มากเท่าไรก็จะสามารถทำกำไรได้มากเท่านั้น


อย่างไรก็ตามทั้งหมดเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานสำหรับผู้ที่กำลังมองหาว่าควรเลี้ยงปลาอะไรดีในบ่อดิน เกษตรที่สนใจควรหาข้อมูลเพิ่มเติม เรียนรู้ด้วยตัวเองตลอดจนขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ ก็จะทำให้ประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งในระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ปลาที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกมากมายสำหรับการเลี้ยงในบ่อดิน สามารถหาดูเพิ่มเติมได้จากแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถึง Social Network ทุกช่องทางเพื่อเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้เกษตรกรอย่างหลากหลายสำหรับการเลือกพันธุ์ปลาอื่นๆที่ต้องการ


บำบัดน้ำเสีย umelife

Umelife จุสินทรีย์และเอนไซม์ปรับสภาพน้ำกำจัดของเสีย กลุ่มของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ ช่วยย่อยทำลายเศษอาหารสารแขวนลอย ทั้งที่ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำให้สลายตัวหมดไป ตู้ปลาจะสะอาดไม่มีตะไคร่น้ำจับ สำหรับบ่อปลาจะไม่มีเน่าที่ก้นบ่อ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ได้กับสัตว์น้ำอื่นๆ เช่น กบ,ตะพาบน้ำ, กุ้งก้ามกราม,กุ้งกุลาดำ และจระเข้ เป็นต้น

คุณสมบัติ 1. ลดการเปลี่ยนถ่ายน้ำ 2. รักษาความสดใสของน้ำในตู้ปลา 3. กำจัดแอมโมเนียและไนไตร์ 4. ป้องกันโรคที่เกิดกับปลา 5. ปลอดภัยกับคนและสัตว์เลี้ยงทุกชนิด


✔️ วิธีใช้

ㆍใช้ครั้งแรกที่อัตราส่วน 0.3 ppm หรือ 1 ลิตร/บ่อ 1 ไร่

ㆍหลังจากนั้นใช้ทุกสัปดาห์ โดยใช้อัตราส่วน 0.15 ppm หรือ 0.5 ลิตร/บ่อ 1 ไร่

**แนะนำให้ใช้ช่วงเช้าเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

**การใช้ช่วงหน้าฝนหรือสภาวะที่ขาด ออกซิเจนควรเปิดเครื่องเติมอากาศ


Comentarios


bottom of page